ใบรับรองเพชร

จาก AKARA Fine Jewelry’s Diamond ผู้เชี่ยวชาญด้านเพชร

การจะเลือกซื้อแหวนเพชร หรือการจะเลือกเพชรน้ำงามซักเม็ด โดยเฉพาะแหวนหมั้น หรือ แหวนแต่งงาน นอกจากจะต้องดูน้ำ หรือสีของเพชรแล้ว ตำหนิ ของเพชรของเพชรก็มีส่วนสำคัญ จึงทำให้ใบเซอร์เป็นสิ่งที่ ต้องให้ความสำคัญในการเลือกซื้อเพชร หากคุณกำลังวางแผนที่จะซื้อเพชรเม็ด 30 ตัง ขึ้นไป (0.30 กะรัต)ใบเซอร์เพชร คือสิ่งสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้ามใบเซอร์เพชรจากสถาบันชั้นนำของโลกอย่างเช่น GIA และ HRD ก็เปรียบเสมือนใบรับประกันว่า คุณจะได้รับเพชรตรงกับคุณภาพที่คุณกำลังมองหา แต่ก็ใช่ว่าเพชรที่มีใบเซอร์ทุกเม็ด จะเป็นเพชรสวย เนื่องจากผู้ซื้อส่วนใหญ่ ไม่ได้มีความรู้เรื่องการอ่านใบเซอร์เพชรมากพอ จึงอาจทำให้พลาดพลั้ง และได้รับเพชรคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน AKARA Fine Jewelry จึงตั้งใจเขียนบทความนี้ขึ้นมา เพื่อแบ่งปันความรู้ให้คุณสามารถอ่านใบเซอร์เพชร ได้อย่างถูกต้อง และใช้เป็นแนวทางสำหรับการลงทุนซื้อเพชรในอนาคต

GIA ย่อมาจาก GEMOLOGICAL INSTITUTE OF AMERICA เป็นสถาบันอัญมณีหลักของประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นใบเซอร์ที่นิยมมากที่สุด มีสำนักงานกระจายออกไปตามประเทศที่เป็นแหล่งผลิต และจำหน่ายอัญมณีหลักๆของโลก GIA ถือเป็นผู้กำหนดมาตรฐานเป็นรายแรกๆ ของโลก จึงทำให้ใบรับรองอัญมณีจาก GIA มีความน่าเชื่อถือสูง ซึ่งได้รับความนิยม และได้รับการยอมรับมากที่สุดในตลาดเครื่องประดับ อัญมณีเหมาะสำหรับซื้อเก็บไว้เก็งกำไรทางธุรกิจ เพราะ ใบเซอร์เพชร GIA ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง จึงทำให้ซื้อง่ายขายคล่อง กว่าเพชรที่มีใบเซอร์จากสถาบันอื่นๆ ซึ่งสามารถออกใบเซอร์เพชรได้ตั้งแต่ 0.30 กะรัตขึ้นไป

หลักการเลือกเพชร 4C

การทำความเข้าใจคุณสมบัติของเพชรมีลักษณะพื้นฐานสี่ประการ {4C}

CARAT

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเพชรที่คุณควรทราบ คือ 4C’s of Diamond หรือ 4 คุณลักษณะของเพชร เพื่อที่คุณจะได้เข้าใจว่าความแตกต่างเพียงเล็กน้อยของเพชรแต่ละเม็ด สามารถบ่งบอกถึงคุณภาพและราคาที่แตกต่างกันได้อย่างน่าเหลือเชื่อ สิ่งสำคัญที่สุดที่ควรศึกษาก่อนซื้อเพชร คือ 4 คุณลักษณะที่ควรเลือกของเพชร (4 CS)ได้แก่
การเจียระไน,สี/น้ำ,น้ำหนักกะรัต,ความสะอาด แม้ตำหนิเพียงเล็กน้อย ไม่ว่าจะอยู่ภายในหรือภายนอก ก็สามารถส่งผลกระทบต่อความสะอาดของเพชรได้ทั้งสิ้น เพชรที่มีตำหนิน้อยที่สุด จึงเป็นเพชรที่มีมูลค่ามากที่สุด ซึ่ง 4 คุณลักษณะนี้ เป็นตัวกำหนดคุณค่าและราคาของเพชร เมื่อรู้และเข้าใจในคุณลักษณะที่ดีแล้ว จะทำให้สามารถเลือกเพชรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเจียระไน

สำหรับนักอัญมณีหมายถึง สัดส่วนของเพชร(proportions) นั่นก็คือ ความลึก (depth) ความกว้าง (width) รูปทรงของหน้าเจียระไน (facet) และความสมมาตร (symmetry) ทั้งหมดล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อความงามของเพชรมากที่สุด การดูความถูกต้องของสัดส่วน (Proportion Grading) จะต้องทำการวัดมุมของส่วนบน(Crown) และส่วนล่าง (Pavilion) ของเพชร ขนาดของหน้าเพชรขนาดของปลายตัดก้นแหลม ความหนาของส่วนบนและความหนาของส่วนล่าง ความหนาของขอบเพชรแล้วนำมาเทียบกับสัดส่วนของเพชรที่เป็นมาตรฐาน การเจียระไนมีผลต่อน้ำหนักที่พยายามรักษาไว้ และความสวยงามของเพชร ถ้าหากสามารถทำให้มีความสวย และรักษาน้ำหนักของเพชรไว้ด้วยแล้ว ก็จะทำให้เพชรนั้นมีค่ามากขึ้น ทั้งนี้ การเจียระไนที่ดี จะช่วยส่งเสริมให้เพชรมีประกายแวววาวเมื่อกระทบกับแสง โดยลักษณะของแสงที่ดีนั้น แสงทั้งหมดจะต้องถูกสะท้อนมายังผู้สวมใส่แล้วให้ความแวววาวสูงสุด

เพชรคุณภาพดีจะต้องมีสัดส่วนที่เหมาะสม ซึ่งควรจะเป็นเพชร 3 Excellent หรือ Very Good เป็นอย่างน้อย เมื่อมีแสงส่องเข้าไปในเพชร จะกระทบออกมาจากด้านบน หากเพชรมีรูปทรงตื้นเกินไป แสงไฟจะหนีออกด้านล่าง ส่วนเพชรที่มีรูปทรงลึกเกินไป แสงไฟจะหนีออกด้านข้าง

สี/น้ำ

สีเพชร หรือที่คนไทย เรียกว่า น้ำ สิยิ่งสูง ยิ่งขาว ยิ่งราคาแพงค่ะ โดยสีสูงสุด เริ่มที่น้ำ 100 (D) ไล่ไปเรื่อยๆค่ะ เช่น E, F, G, H, I, J (99, 98, 97, 96, 95, 94) โดยสี D-F ถือว่าเป็นเกรดไร้สี (Colorless) และสี G-J ถือว่าเป็นเกรดเกือบไร้สี (Near Colorless) หากมองในแง่ความคุ้มค่า เพชรเกรดเกือบไร้สี น่าจะคุ้มค่าที่สุดค่ะ เพราะเพชรดูไร้สี เมื่อมองจากด้านหน้าเพชร แทบไม่ต่างจากเพชรเกรดไร้สี (ต้องมองจากด้านข้าง หรือด้านก้นเพชร ถึงจะเห็นติดสีนวลๆเล็กน้อยค่ะ สำหรับเพชรเกรดเกือบไร้สี)

กะรัต คือหน่วย วัดขนาด น้ำหนักของเพชร 1 กะรัต เท่ากับ 200 มิลลิกรัม หรือ 5 กะรัต เท่ากับ 1 กรัม 1 กะรัต ยังเท่ากับ 100 point หรือที่ ภาษาไทยเรียกว่า ตังค์ ยกตัวอย่างเช่น เพชรขนาด 0.35 กะรัต หรือ 35 point หรือ 35 ตังค์ค่ะ เพชรขนาดยิ่งใหญ่ จะยิ่งหายาก และยิ่งมีมูลค่าสูง โดยปกติแล้ว เพชรขนาดใหญ่ขึ้น สองเท่า ราคาต่อกะรัต จะเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าค่ะ เช่น เพชรขนาด 1 กะรัต 1 เม็ด จะมีราคาสูงกว่าเพชรครึ่งกะรัตคุณภาพเดียวกัน สองเม็ดค่ะ ขนาดของเพชร (Carat) ถือว่าเป็นปัจจัยที่สามารถเห็นความแตกต่างได้ชัดเจนที่สุด ด้วยตา เราสามารถเห็นความแตกต่างระหว่างเพชรขนาด 40 ตังค์ กับ 30 ตังค์ได้อย่างชัดเจน และแยกแยะได้อย่างง่ายดายค่ะ ทั้งนี้เพชรที่มีกะรัตเท่ากันอาจมีราคาแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยในที่กล่าวไว้เกี่ยวกับ 4C

ความสะอาด

มีตั้งแต่ไร้มลทินและตำหนิน้อย จนถึงมีมลทินและตำหนิมาก ลักษณะความบริสุทธิ์จะต้องพิจารณาถึงมลทินที่เกิดอยู่ภายในหรือตำหนิ โดยพิจารณาถึงขนาด จำนวน ตำแหน่ง ลักษณะทางธรรมชาติของมลทินและตำหนิ เพชรที่มีความบริสุทธิ์สมบูรณ์ไร้รอยตำหนิมีอยู่น้อย แต่หากเพชรสมบูรณ์ไร้รอยตำหนิ และมีองค์ประกอบอื่นๆคือ สี การเจียระไนและน้ำหนักดีพร้อม จะมีราคาแพงที่สุด การจัดลำดับความบริสุทธิ์ของเพชรที่นิยมใช้กันในยุโรปและอเมริกา ได้กำหนดมาตรฐานไว้โดยต้องตรวจดูภายใต้แว่นขยายหรือกล้องจุลทรรศน์ที่มีกำลังขยาย 10 เท่า เนื่องจากลักษณะสำคัญของอัญมณีแท้ตามธรรมชาติ คือ ไม่มีอัญมณีใด ที่เหมือนกันทุกประการ และไม่มีอัญมณีใดที่มีความสมบูรณ์ 100% โดยปราศจากมลทินและตำหนิ clarity จึงใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาจากความชัดเจน ความมากน้อยของตำหนิภายนอก เช่น รอยขีดข่วน (scratch) รอยบิ่น (nick) เป็นต้น หรือมลทินที่อยู่ในเพชร ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า จะต้องใช้กล้องที่มีกำลังขยาย 10 เท่าเป็นเกณฑ์ ดังนั้นหากเพชรที่มี clarity ในระดับที่มองเห็นได้ยากด้วยกล้องกำลังขยาย10 เท่า ก็ถือว่าอยู่ในระดับดีเยี่ยม ความสะอาดของเพชร พิจารณาภายใต้กล้องขยาย 10 เท่า เริ่มจาก

4.1 FL/IF (Flawless/ Internally Flawless) – ไร้ตำหนิ เมื่อมองภายใต้กล้องกำลังขยาย 10 เท่า VVS1-2 (Very Very Slightly Included 1-2) – เพชรมีตำหนิ หรือมลทินขนาด เล็กมากๆ เมื่อมองภายใต้กล้องกำลังขยาย 10 เท่า ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และหายากมากๆ เมื่อมองด้วยกล้อง 10 เท่า ผู้ชำนาญการอาจต้องใช้เวลาค้นหากว่าครึ่งนาทีค่ะ

4.2 VS1-2 (Very Slightly Included 1-2) – เพชรมีตำหนิ หรือมลทินขนาด เล็กมาก เมื่อมองภายใต้กล้องกำลังขยาย 10 เท่า ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และหายากมาก เมื่อมองด้วยกล้อง 10 เท่า ผู้ชำนาญการอาจต้องใช้เวลาค้นหา 5-10 วินาที สำหรับคนที่ไม่เชี่ยวชาญการใช้ลูป อาจหาไม่พบค่ะ เพชรคุณภาพนี้ ถือว่าเป็นเพชรเกรดที่คุ้มค่าที่สุดค่ะ เพราะมลทินมีขนาดเล็กมาก ไม่มีผลต่อความสวยงามใดๆของเพชร และราคาย่อมเยาว์กว่าเพชร IF VVS พอสมควรค่ะ

4.3 SI1-3 (Slightly Included 1-3) – เพชรมีตำหนิ หรือมลทินขนาด เล็ก เมื่อมองภายใต้กล้องกำลังขยาย 10 เท่า ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่เห็นได้ง่ายภายใต้กล้อง 10 เท่า เพชรคุณภาพ SI ถ้าเลือกดีๆ และเลือกเป็น ก็อาจได้เพชรคุณภาพดี ราคาถูกก็ได้ค่ะ

4.4 I1-3 (Imperfect 1-3) – เพชรมีตำหนิหรือมลทินขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เพชรคุณภาพนี้บางเม็ดที่มีตำหนิ หรือรอยแตก ร้าว ขนาดใหญ่ อาจมีผลต่อความแข็งแรง ทนทานของเพชรโดยรวม แนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงดีกว่าค่ะ